กรมทางหลวง ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ - เชียงราย ระยะทางรวม 158 กิโลเมตร ด้วยการขยายถนนจากขนาด 2 ช่องจราจรไปกลับ (ด้านละ 1 ช่อง) เป็น 4 ช่องไปกลับ (ด้านละ 2 ช่อง) แล้วเสร็จ 48 กม. เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนรวมทั้งสนับสนุนการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวของประเทศ ปัจจุบันได้ขยายช่องจราจรเพิ่มอีก 42.8 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 2,ุ633,662,058 บาท โดยลงพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่ปี 61 แบ่งงานก่อสร้างเป็น 5 สัญญา ซึ่งสัญญาสุดท้ายจะส่งมอบงานภายในเดือน มิ.ย.64 นับเป็นเส้นทางสำคัญของการขนส่งสินค้าไปทาง อ.เชียงแสน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เชื่อมต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาวและเมียนมา แต่เนื่องด้วยเส้นทางติดอุทยานแห่งชาติและเขตป่าไม้ มีต้นไม้หวงห้ามอยู่สองข้างทาง ซึ่งตามระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กำหนดให้กรมทางหลวงสำรวจสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการฯ จากนั้นนำมาเปรียบเทียบกับการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีโอเอ) เมื่อดำเนินการเสร็จ กรมอุทยานฯ จะต้องพิจารณาก่อนอนุญาตให้เข้าพื้นที่และล้อมย้ายต้นไม้ออกจากพื้นที่เขตทาง
นอกจากนี้ประชาชนยังร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนระหว่างการก่อสร้างโครงการโดยเฉพาะช่วง ต.ป่าเมี่ยง - บ.ปางน้ำถุ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้าพื้นที่ล่าช่า "ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเดือนร้อนจากการสัญจรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ตอน ต.ป่าเมี่ยง - บ.ปางน้ำถุ เมื่อปลายปี 62 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และได้รับทราบปัญหาจึงมีนโยบายมอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดแก้ไข โดยได้หารือผู้รับจ้างทุกรายเพื่อปรับแผนการก่อสร้างให้เดินหน้าต่อไปได้และให้โครงการเสร็จโดยเร็ว หากส่วนไหนที่เป็นปัญหาจาากผู้รับเหมาได้สั่งปรับเงินตามสัญญา ปัจจุบันงานก่อสร้างตอนดังกล่าว เสร็จเกือบ 100% แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 4 ตอน จะดำเนินการให้เสร็จตามแผนต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน" นายสราวุธ ทรงศิริไล อธิบดีกรมทางหลวง ชี้แจง
ด้านนายอำนวยพร ศรีอิสรานุสรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ในฐานะผู้จัดการโครงการทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ - เชียงราย ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า โครงการนี้แบ่งการก่อสร้างเป็น 5 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ตอน ต.ป่าเมี่ยง - บ.ปางน้ำถุ ระยะทาง 9.25 กม. ปัจจุบันมีความคืบหน้า 99.1% ปูผิวจราจรแล้วเสร็จให้ประชาชนได้สัญจร และกำลังเก็บรายละเอียดงานต่าง ๆ เช่น งานตีเส้นจราจร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.63
สัญญาที่ 2 ตอน บ.ปางน้ำถุ - บ.โป่งป่าตอง ตอน 1 ระยะทาง 6.65 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ก.ค.63 มีความล่าช้าเพราะแนวเส้นทางผ่านเขตอุทยานแห่งชาติขุนแจ จ.เชียงราย และที่ผ่านมาผู้รับเหมาไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ประมาณ 1 ปี 5 เดือน แต่ขณะนี้ส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมา 100% แล้ว กำลังเร่งเดินหน้างานก่อสร้างเต็มที่
สัญญาที่ 3 ตอน บ.ปางน้ำถ - บ.โป่งป่าตอง ตอน 2 ระยะทาง 4.6 กม. มีความคืบหน้า 10% อยู่ระหว่างตัดเขาลูกเนิน เพื่อลดความชันของถนน ก่อนขึ้นโครงสร้างทางใหม่คาดแล้วเสร็จ ก.พ.64
สัญญาที่ 4 ตอน อ.ดอยสะเก็ด - ต.ป่าเมี่ยง ตอน 2 ระยะทาง 108 กม. คืบหน้า 27.7% อยู่ระหว่างตัดเขาลูกเนิน เพื่อลดความชันของถนน เช่นเดียวกับสัญญาที่ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จ เม.ย.64 และ
สัญญาที่ 5 ตอน อ.ดอยสะเก็ด - ต.ป่าเมี่ยง ตอน 1 ระยะทาง 11.5 กม. มีความคืบหน้า 20.9% คาดว่าจะแล้วเสร็จ มิ.ย.64
ทั้งสัญญาที่ 4 และ 5 มีความล่าช้าเนื่องจากแนวเส้นทางผ่านเขตป่าไม้ซึ่งมีต้นไม้หวงห้าม โดยกลุ่มเอ็นจีโอต้องการให้กระทบต้นไม้น้อยที่สุด ทล.พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและดำเนินการตามมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยสัญญาที่ 5 จะเร่งจัดหาผู้รับจ้างมาล้อมย้ายต้นไม้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.63 เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างดำเนินการต่อไปและจะเป็นช่วงที่ก่อสร้างเสร็จหลังสุด เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเสริมโครงข่ายทางหลวงแผ่นดินให้สมบูรณ์รองรับปริมาณจราจรที่สูงขึ้นถึง 30,000 คันต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 - 18,000 คันต่อวัน ลดการเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางผ่านพื้นที่ภูเขาและแนวทางคดเคี้ยว
ขอขอบคุณที่มาข่าวและภาพข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
