f
title
สำนักงานทางหลวงที่ 1
Office of Highways 1 (Chiangmai)
วิสัยทัศน์ : " ทางหลวง สะดวก ปลอดภัย และสวยงามทั่วล้านนา "
กรมทางหลวงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง เร่งติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยบนทางหลวง พร้อมจัดบริการรับ – ส่ง และรถส่งมอบอาหารแก่ผู้ประสบภัย
ลงวันที่ 20/10/2565

นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ทางหลวงบางเส้นทางมีน้ำท่วมสูงเป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อย่างใกล้ชิด แขวงทางหลวงอ่างทองได้มีการติดตั้งอุปกรณ์สิ่งอำนวยความปลอดภัยเพื่อชะลอน้ำไหลผ่าน ให้รถเล็กได้อย่างปลอดภัยบนทางหลวงหมายเลข 3064 ตอน อ่างทอง – ปากดง ระหว่าง กม.4+400 – 9+150 และมีรถบริการ รับ – ส่ง ประชาชน โดยรถจะออกจากโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ผ่านสามแยกไฟแดงป่างิ้ว เข้าตัวเมืองอ่างทอง ผ่านหน้าศาลากลางอ่างทอง ผ่านหน้าโรงพยาบาลอ่างทอง แล้ววนกลับเส้นทางเดิม ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ด้านแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ได้ให้การสนับสนุนรถเพื่อส่งมอบอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่บ้านโนนแดง ตำบลฆ้องชัยพัฒนา อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ในขณะที่แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่บริการประชาชนลงเรือข้ามฟาก ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หากพื้นที่ใดประสบปัญหาก็จะระดมบุคลากร นำเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลือเพื่อเร่งระบายน้ำ ป้องกันเส้นทางไม่ให้เกิดทางขาดอย่างเต็มที่ สำหรับเส้นทางที่น้ำลดแล้วได้มีการสำรวจความเสียหายของ ถนน สะพาน และระบบระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 20 ตุลาคม  2565 เวลา 14.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี, จ.ภูเก็ต และ จ.สตูล จำนวน 29 สายทาง 40 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 25 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
 - ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ทางขาด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
   - ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 8+200 ระดับน้ำ 15 - 30 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก
    - ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+200 – 15+100 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600 คาดว่าการจราจรผ่านได้ 26 ตุลาคม 2565   
     
 2. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่
   - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178
        - ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 45 – 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
        - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
          -ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000  - 39+500 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้             
          - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 50 - 80 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
           - ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 30 - 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
          - ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

3. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง  
    - ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 45 - 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013

4. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 6 แห่ง
          -ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ช่วง กม.ที่ 260+700 – 261+800 ระดับน้ำ 35 - 55 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2383 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 22 ตุลาคม 2565
 - ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 90 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี
          - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 50 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178
         - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 70 - 80 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178
         - ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 80 - 115 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231
          - ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+920 – 14+480 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 50 - 65 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2382 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 26 ตุลาคม 2565


5.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 2 แห่ง
 - ทางหลวงหมายเลข 2322 ตอน โกสุมพิสัย – โคกสูง ในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย ช่วง กม.ที่ 29+900 – 30+050 ระดับน้ำ 30 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
 - ทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง – บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ 35 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

6. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 1 แห่ง
  - ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 15 - 20 ซม. คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 20 พฤศจิกายน 2565

7.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง
   - ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 9+793 – 15+950 ระดับน้ำ 35 - 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

8. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3 แห่ง
        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+022 – 35+100 ระดับน้ำ 80 - 100 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030 คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900 – 44+100 ระดับน้ำ 65 - 75 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
        - ทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ – บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100 ระดับน้ำ 35 - 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

9.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง
 - ทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 ถนนเกิดการสไลด์ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 คาดว่าจะดำเนินการซ่อมแซม 7 วัน

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1

 

ที่มา:เว็บไซต์กรมทางหลวง http://www.doh.go.th


'